แชร์

วิธีการคำนวนไฟ UPS และเลือกขนาดเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS)

อัพเดทล่าสุด: 11 พ.ค. 2025
23 ผู้เข้าชม

วิธีการคำนวนไฟ UPS และเลือกขนาดเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS)

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกขนาดของ UPS (เครื่องสำรองไฟ) ได้แก่:

  • โหลดรวมของอุปกรณ์ทั้งหมดที่ UPS ต้องป้องกัน
  • เผื่อการขยายระบบในอนาคต
  • ระยะเวลาการสำรองไฟของแบตเตอรี่
  • การเผื่อสำหรับระบบสำรอง (Redundancy)

การเลือกขนาด UPS ที่เหมาะสม
การเลือก Topology ของ UPS ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ แต่การคำนวณขนาด UPS ให้ถูกต้องก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเลือกขนาดเล็กเกินไปจะเกิดปัญหาทันที ในขณะที่หากเลือกขนาดใหญ่เกินไปก็จะเปลืองพลังงาน เงิน และพื้นที่ติดตั้งโดยเปล่าประโยชน์

วิธีที่ง่ายที่สุดในการมั่นใจว่า UPS มีขนาดเหมาะสม คือให้ผู้ขายมาสำรวจพื้นที่ติดตั้ง (Site Survey) เพื่อประเมินความต้องการอย่างแม่นยำ แต่หากต้องการคำนวณเอง ก็สามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. โหลดสำคัญ (Critical Loads) และไม่สำคัญ (Non-Critical Loads)
เริ่มจาก ลิสต์ อุปกรณ์ทั้งหมดที่ต้องการการป้องกันจาก UPS และพิจารณาว่าอุปกรณ์ใดเป็น Critical (จำเป็นต้องสำรองไฟ) และอุปกรณ์ใดเป็น Non-Critical (ยอมให้ดับได้เมื่อไฟดับ)

1.1) วิธีการคำนวณขนาดกำลังจ่ายของ UPS เพื่อใช้กับโหลดต่าง ๆ

  1. ทำรายการอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต่อพ่วงกับ UPS เช่น คอมพิวเตอร์, จอภาพ, โมเด็ม, และอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่นๆ
  2. อ่านค่าพิกัดกำลังจาก Nameplate บนอุปกรณ์ ซึ่งจะระบุแรงดันไฟฟ้า (Volt) และกระแสไฟฟ้า (Ampere) ที่ต้องการใช้งาน
  3. คำนวณค่า VA:
    • ถ้าอุปกรณ์ระบุค่า Volt และ Ampere: คำนวณโดย Volt × Ampere = VA
    • ถ้าอุปกรณ์ระบุค่า Watt: แปลงเป็น VA โดย Watt × 1.4 = VA
  4. รวมค่า VA ของอุปกรณ์ทั้งหมด ที่ต้องการเชื่อมต่อกับ UPS
  5. เลือก UPS ที่มีกำลังจ่ายสูงกว่าค่า VA รวม เพื่อความปลอดภัยและรองรับการขยายในอนาคต

1.2) ตัวอย่างการคำนวณ 
ต้องการเลือก UPS เพื่อใช้กับ:

  1. คอมพิวเตอร์: ขนาด 220 V 1 A
  2. จอภาพ (Monitor): ขนาด 50 Watt
  3. เราเตอร์ Wi-Fi (Router): ขนาด 20 Watt
1. คำนวณค่า VA ของแต่ละอุปกรณ์:
  • คอมพิวเตอร์: ค่าแรงดันไฟฟ้า = 220 V, กระแสไฟฟ้า = 1 A
  • VA = 220 × 1 = 220 VA
  • จอภาพ (Monitor): กำลังไฟฟ้า = 50 Watt
  • แปลงเป็น VA: 50 × 1.4 = 70 VA
  • เราเตอร์ Wi-Fi (Router): กำลังไฟฟ้า = 20 Watt
  • แปลงเป็น VA: 20 × 1.4 = 28 VA

2. รวมค่า VA ทั้งหมด:

  • คอมพิวเตอร์: 220 VA
  • จอภาพ: 70 VA
  • เราเตอร์ Wi-Fi: 28 VA
  • VA รวม = 220 + 70 + 28 = 318 VA

3. เลือก UPS:
ควรเลือก UPS ที่มีกำลังจ่ายไฟ 318 VA หรือสูงกว่า เช่น UPS รุ่นที่รองรับ 400 VA หรือมากกว่า เพื่อความปลอดภัยและรองรับการใช้งานในอนาคต

สรุป:
UPS ที่เหมาะสมกับตัวอย่างนี้คือ UPS ขนาด 400 VA ขึ้นไป

2. ช่วงกำลังไฟ (Power Range)
ขั้นต่อไปคือการคำนวณ กำลังไฟรวม ของโหลดสำคัญที่ต้องการการป้องกัน ควรพิจารณาจากช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูงสุด (Peak Working Hours) ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ใช้งานน้อย เช่น เวลากลางคืนในออฟฟิศ

ข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณ เช่น

  • แรงดันไฟฟ้า (Voltage)
  • ความถี่ (Frequency)
  • จำนวนเฟส (Phases)
  • กระแสไฟ (Load Current)
  • ตัวประกอบกำลังไฟ (Power Factor)
  • การใช้พลังงาน (Power Consumption)

โหลดไฟฟ้าจะระบุในหน่วย Watts (W) หรือ Volt-Amperes (VA) เนื่องจาก UPS จะระบุเป็น VA หรือ kVA ดังนั้นอาจต้องแปลงจาก W ไป VA โดยสูตร:

VA= W (Watts) / Power Factor

รวมค่า VA ทั้งหมด จากนั้นคูณด้วยตัวเลขเช่น 1.2 หรือ 1.25 เพื่อเผื่อการขยายในอนาคต ค่านี้คือขนาดสูงสุดที่ UPS ควรมี (VA หรือ kVA)

หมายเหตุ: UPS ไม่ควรเลือกขนาดให้ทำงานที่โหลด 100% เพื่อให้ทำงานได้อย่างเสถียรและปลอดภัย


3. โหลดที่อาจสร้างปัญหา (Potentially Problematic Loads)
อุปกรณ์บางชนิด เช่น

  • ปริ้นเตอร์เลเซอร์
  • Blade Servers
  • เครื่องปรับอากาศ
  • ระบบแสงสว่างบางประเภท
  • มอเตอร์และคอมเพรสเซอร์

อุปกรณ์เหล่านี้มี Inrush Current (กระแสพุ่งสูงตอนเริ่มทำงาน) หรือดึงกระแสไฟสูงขณะทำงาน อาจทำให้ UPS เกิด Overload, ส่งเสียงเตือน หรือเข้าโหมด Bypass

วิธีแก้ไข:

  • ตัดอุปกรณ์ดังกล่าวออกจากระบบสำรองไฟ (หากอุปกรณ์สามารถดับได้อย่างปลอดภัยเมื่อไฟดับ)
  • เลือก UPS ขนาดใหญ่ขึ้น โดยเผื่อไว้ไม่น้อยกว่า 3 เท่า
4. ระยะเวลาสำรองไฟ (Battery Runtime)
คือระยะเวลาที่ UPS จะจ่ายไฟให้อุปกรณ์ทำงานต่อในกรณีไฟดับ วิธีเลือกขนาดแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน บางกรณีอาจต้องการแค่ ไม่กี่นาที เพื่อให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง (Generator) เริ่มทำงาน

การคำนวณเหล่านี้ช่วยให้สามารถเลือกขนาด UPS ได้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาค

หากคุณไม่แน่ใจในการคำนวณหรือมีความต้องการที่จะประเมินพื้นที่ติดตั้ง UPS อย่างแม่นยำ เราขอแนะนำให้ใช้บริการก่อนการขาย บริการคำนวณโหลด UPS จาก BT Connect ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยประเมินความต้องการ พร้อมแนะนำอุปกรณ์และรุ่นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

ติดต่อบีที คอนเนค เพื่อให้การเลือก UPS เป็นเรื่องง่ายและมั่นใจได้!

บทความที่เกี่ยวข้อง
ความแตกต่างระหว่าง Line Interactive UPS กับ Online UPS
การเลือกเครื่องสำรองไฟ (UPS) ที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องเลือก Line Interactive UPS หรือ Online UPS เพราะทั้งสองแบบมีจุดเด่นและจุดแตกต่างกันในเรื่องคุณสมบัติและประสิทธิภาพการป้องกันระบบไฟฟ้า
16 ม.ค. 2025
ข้อดีของเครื่องสำรองไฟแบบโมดูลาร์ (Modular UPS)
UPS แบบ Modular ของเราเหมาะสำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Centers) โรงงานอุตสาหกรรม และองค์กรที่ต้องการระบบสำรองไฟที่ยืดหยุ่นและรองรับการเติบโตของธุรกิจ ทีมผู้เชี่ยวชาญของ BT Connect พร้อมให้คำปรึกษาและนำเสนอ UPS รุ่น Modular ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ เพื่อเพิ่มความเสถียรและประสิทธิภาพให้ระบบไฟฟ้าในองค์กร
16 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy