ประสิทธิภาพของเครื่องสำรองไฟ (UPS) สำคัญอย่างไร?
ประสิทธิภาพของเครื่องสำรองไฟ (UPS) สำคัญอย่างไร?
ประสิทธิภาพของเครื่องสำรองไฟ (UPS) คืออะไร?
ประสิทธิภาพ (Efficiency) ของ UPS หมายถึงความสามารถในการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เข้ามาเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างเช่น UPS ที่มีประสิทธิภาพ 95% จะนำพลังงาน 95% ไปใช้กับโหลดและระบบที่เชื่อมต่อ ส่วนอีก 5% จะสูญเสียไปในรูปของพลังงานที่ใช้ในการทำงานของตัว UPS เอง
ทำไมประสิทธิภาพสูงถึงสำคัญ?
UPS ที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยลดการสูญเสียพลังงานในรูปของความร้อน UPS ที่มีประสิทธิภาพต่ำมักต้องใช้ระบบปรับอากาศเพิ่มเติมเพื่อควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับปลอดภัย
แม้เพียงการเพิ่มประสิทธิภาพ 1-2% ก็สามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้อย่างมหาศาลตลอดอายุการใช้งานของ UPS (ประมาณ 10 ปี) โดยเฉพาะสำหรับระบบขนาดใหญ่ที่มีพิกัดกำลังไฟสูง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของ UPS
- ประเภทของ UPS: ระบบ UPS แต่ละประเภทมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน
- ระดับโหลด: UPS เดียวกันอาจมีประสิทธิภาพเปลี่ยนแปลงตามระดับโหลด เช่น UPS ที่ทำงานที่โหลด 20-25% อาจมีประสิทธิภาพเพียง 85%
ความสำคัญของประสิทธิภาพในระบบ UPS ขนาดใหญ่
ในระบบ UPS แบบขนาน (Parallel-Redundant) ประสิทธิภาพที่ต่ำในแต่ละเครื่องจะถูกขยายผลกระทบเมื่อรวมกัน โดยเฉพาะในระบบเดิมที่ UPS มักทำงานน้อยกว่า 50% ของกำลังที่ระบุไว้
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีในปัจจุบันได้พัฒนาระบบ UPS ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น UPS แบบไร้หม้อแปลง (Transformerless UPS) อย่าง Sentryum, Multi Sentry, Memo III, Extra Power, Data Pro ของ Riello UPS และ BCN UPS ระบบเหล่านี้สามารถมีประสิทธิภาพสูง (>95%) ตั้งแต่โหลด 25% ไปจนถึงโหลดเต็ม
โหมด ECO และการเพิ่มประสิทธิภาพ
โหมดประหยัดพลังงาน (ECO Mode) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ UPS ได้ถึง 98-99% โดยใช้พลังงานจากสายบายพาสโดยตรง ขณะที่อินเวอร์เตอร์จะทำงานเฉพาะเมื่อเกิดปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง อย่างไรก็ตาม โหมดนี้อาจลดความน่าเชื่อถือ จึงควรใช้งานในช่วงเวลาที่โหลดสำคัญไม่ได้ทำงาน เช่น ช่วงเวลากลางคืน
อีกทางเลือกหนึ่งคือโหมด Smart Active ที่ช่วยให้ UPS ตัดสินใจเลือกโหมดการทำงานเองระหว่าง Full Online Mode และ ECO Mode โดยพิจารณาจากความเสถียรของไฟฟ้าขาเข้า
การเลือก UPS ที่มีประสิทธิภาพสูงและเหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความมั่นใจในระบบไฟฟ้าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเลือก UPS แบบไร้หม้อแปลงสำหรับประสิทธิภาพที่สูงกว่า หรือการใช้โหมด ECO เพื่อลดการใช้พลังงานในช่วงเวลาที่เหมาะสม